
โรคออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) โรคของคนยุคใหม่ ที่ไลฟ์สไตล์ชีวิตมีการทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ เล่นมือถือ ต้องก้มหน้านานๆ ไม่ค่อยได้ขยับร่างกาย ทำให้มีอาการปวดหลัง คอ บ่า ไหล่ ปวดเอว ซึ่งหลายคนปล่อยให้เรื้อรัง จนลุกลามไปสู่การเป็นโรคอื่นๆ ที่รุนแรงขึ้น และมักจะเป็นในกลุ่มวัยทำงานของพนักงานบริษัท ที่ต้องนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ ไม่ได้ขยับตัวลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย รวมไปถึงผู้ที่ต้องทำกิจกรรมใช้กล้ามเนื้อในลักษณะเดิมเป็นเวลานาน หรือคนทั่วไปก็สามารถเป็นออฟฟิศซินโดรมได้เช่นกัน
สาเหตุ โรคออฟฟิศซินโดรม

1.การนั่งหรือยืนในท่าที่ไม่ถูกต้อง: การนั่งหรือยืนในท่าที่ไม่เหมาะสมสามารถทำให้กล้ามเนื้อและข้อต่างๆ ของร่างกายเคลื่อนไหวและทำงานอย่างไม่เหมาะสม ซึ่งส่งผลให้เกิดการเคลื่อนไหวที่ไม่ถูกต้องและอาจทำให้เกิดอาการปวดต่างๆ

2.การทำงานในที่สภาพแวดล้อมไม่ดี: สภาพแวดล้อมในที่ทำงานที่ไม่เหมาะสม เช่น การระบายอากาศไม่ดี การจัดโต๊ะทำงานหรือเก้าอี้ที่ไม่เหมาะสม สามารถทำให้เกิดความเครียดและอาการตึงเครียดต่างๆ ที่ส่งผลต่อสุขภาพร่างกาย

3.การใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ทำงานที่ไม่เหมาะสม: การใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ทำงานที่ไม่เหมาะสมสามารถทำให้เกิดการเอียงร่างกายหรือการใช้กำลังงานอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคออฟฟิศซินโดรมได้

4.การทำงานในระยะเวลาที่ยาว: การทำงานเป็นเวลานานๆ โดยไม่มีการพักผ่อนหรือออกกำลังกายอาจส่งผลให้เกิดความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อ และการเคลื่อนไหวที่ไม่เหมาะสม ทำให้เกิดโรคออฟฟิศซินโดรมได้
การป้องกันโรคออฟฟิศซินโดรม

1.การปรับเปลี่ยนท่านั่งและการนั่งที่ถูกต้อง พยายามเปลี่ยนท่านั่งบ่อยๆ และรักษาร่างกายในท่าที่ถูกต้อง เช่น นั่งตรงหรือยืดตัวเมื่อทำงานนานๆ และอย่าย่องอกหลัง

2.การใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสม ใช้เก้าอี้ที่รองรับได้ดีเพื่อระบายน้ำหนักและสนับสนุนส่วนลำตัว และปรับส่วนสูงของโต๊ะทำงานให้เหมาะสมกับระดับความสูงของผู้ใช้

3.การใช้อุปกรณ์ทำงานที่เหมาะสม อาจใช้เมาส์และคีย์บอร์ดที่มีการออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานในระยะเวลายาวๆ และพัฒนาท่านั่งหรือท่ายืนที่สามารถให้รองรับการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ได้อย่างเหมาะสม

4.การพักผ่อนและออกกำลังกาย ทำการพักผ่อนและยืดเวลาเป็นช่วงๆ ระหว่างการทำงาน เช่น ทุกๆ 1-2 ชั่วโมง และทำการออกกำลังกายเบาๆ เพื่อระบายกล้ามเนื้อและสร้างพลังงานให้กับร่างกาย

5.การดูแลสุขภาพทั่วไป รักษาพฤติกรรมการออกกำลังกายและการบริโภคอาหารที่ดี เพื่อรักษาสุขภาพร่างกายและจิตใจให้แข็งแรง เช่น การดื่มน้ำมากพอสมควรและการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
การป้องกันโรคออฟฟิศซินโดรมมีความสำคัญในการรักษาสุขภาพร่างกายและจิตใจของผู้ทำงานในสถานที่ทำงาน โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการจัดการกับสภาพแวดล้อมในที่ทำงานอย่างเหมาะสมสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีและสุขภาพของผู้ทำงานได้ในระยะยาว